ลองดูกราฟประวัติการขึ้นลงค่าแจ้งของคู่ USD/JPY ในจุด A ค่าแจ้งเท่ากับ 111.01 และหลังจากผ่านเวลาระยะหนึ่งเท่ากับ -109.71 (จุด B) ส่วนต่างระหว่างค่าแจ้งระหว่างจุด A แล B เท่ากับ 130 จุด (111.01 ลบ 109.71) โดยรวมเป็นอัตราการขึ้นลงที่เล็กมาก ถ้าคำนวนเป็นสัดส่วน (โดยประมาณ 1 %) แต่สำหรับนักเทรดในฟอเร็กซ์ การขึ้นลงของอัตราแม้แต่เล็กน้อยอย่างนี้สามารถสร้างกำไรมากมายได้ ถ้าการคาดการณ์ของนักเทรดในจุด A อยู่ที่ว่า อัตราจะลดลง นักเทรดจะทำรายการขาย (รายการ SELL) และพอเวลาผ่านไประยะหนึ่ง จะปิดรายการในจุด B ด้วยการทำรายการกลับ คือรายการซื้อ (BUY) กำไรสุทธิเท่ากับ 130 จุด นอกจากนั้นในการคำนวณจริง ต้องใช้ค่าสเปรดด้วย (ส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาซื้อ) ซึ่งโดยเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 1 ถึง 10 จุดสำหรับคู่เงินตราาสกุลต่างๆแต่ละคู่ ในการคำนวณตัวอย่างของเรา จะไม่รวมค่าสเปรดเพื่อความสำดวกในการคำนวณ

นักเทรดจะได้กำไรจากรายการนี้เป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ สมมุติว่าในรายการนี้นักเทรดได้ใช้เงิน 100$ ณ เวลาการซื้อ ศูนย์การค้าให้ค่า leverageแบบอัตโนมัติ เท่ากับ 1:100 หมายความว่า นักเทรดได้ขายเงินตรา (ในจุด A) ไม่ใช่ 100$ แต่เป็นจำนวน  10000$ ซึ่งถ้าอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 111.01 เยนต่อ 1 เหรียญ ยอกทั้งหมดเท่ากับ 1110100เยน และในจุด B เขาเอายอดเงินเยนไปซื้อเงินเหรียญ ในอัตรา 109.71 โดยยอดรวมที่จะได้รับเท่ากับ 10118,49$ ณ เวลาปิดรายการ ณ เวลาปิดรายการ ยอดเงินกู้ยืมจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ (รายได้จะถูกหานด้วย 100 ตามอัตราค่า Leverage) และรายได้สุทธิของนักเทรดจะเท่ากับ 101$ ถ้าเปรียบเทียบกับยอดเงินเริ่มต้นที่นักเทรดได้ใช้ในการทำรายการนี้ (100$) รายได้เท่ากับ 100% ของยอดเงินเริ่มต้น หรือจำนวนเงินเริ่มต้นเพิ่มขึ้นเท่าตัว ดังนั้นเราสามารถเห็นได้ชัดว่า การขึ้นลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่เท่ากับ 1% เอง อาจทำให้นักเทรดสามารถมีกำไรสูง บางครั้งอัตราการขึ้นลงของอัตราแลกเปลี่ยนภายในวันเดี่ยวสามารถถึง 200-300 จุดหรือสูงกว่านั้นอีก